27 สิงหาคม ของ สงครามอังกฤษ–แซนซิบาร์

ตำแหน่งของกองเรือเมื่อเวลา 09.00 น.

เมื่อเวลา 08.00 น. ของเช้าวันที่ 27 สิงหาคม หลังผู้ส่งสารจากสุลต่านคาลิดแจ้งขอเจรจากับเคฟ กงสุลตอบกลับไปว่า พระองค์มีทางรอดเดียว คือ ต้องตกลงตามเงื่อนไขของคำขาด[10][35] เวลา 08.30 น. ผู้ส่งสารที่สุลต่านคาลิดส่งมาประกาศว่า "เราไม่มีเจตนาลดธงของเราลงและเราไม่เชื่อว่าคุณจะเปิดฉากยิงใส่เรา" เคฟตอบว่า "เราไม่ต้องการเปิดฉากยิง แต่หากท่านไม่ปฏิบัติตามที่ท่านได้รับแจ้ง เราจะทำเช่นนั้นแน่นอน"[34] เวลา 08.55 น. เมื่อไม่ได้รับข่าวจากพระราชวังเพิ่มเติม รอว์สันบนเรือเซนต์จอร์จจึงยกธงสัญญาณ "เตรียมปฏิบัติการ"[36]

เมื่อเวลา 09.00 น. ตรง พลเอกลอยด์ แมตทิวส์สั่งการให้เรืออังกฤษเริ่มระดมยิง[31][37] เวล 09.02 น. เรือแรคคูน ทรูช สแพร์โรว เปิดฉากยิงไปยังพระราชวังอย่างพร้อมเพรียงกัน ปืนใหญ่นัดแรกของเรือทรูชทำให้ปืนใหญ่วิถีราบอาหรับขนาด 12 ปอนด์ใช้การไม่ได้ทันที ฝ่ายตั้งรับ บ่าวและทาสจำนวน 3,000 คนอยู่ในพระราชวังที่สร้างจากไม้เป็นส่วนใหญ่ และมีสิ่งกีดขวางเป็นกล่องลัง หีบห่อและยาง มีกำลังพลสูญเสียจำนวนมากจากกระสุนระเบิดแรงสูง แม้มีรายงานเบื้องต้นว่า สุลต่านคาลิดถูกจับได้และถูกเนรเทศไปยังอินเดีย[10][38] แต่สุลต่านคาลิดเสด็จหนีออกจากพระราชวัง ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สุลต่าน "เสด็จหนีไปตั้งแต่กระสุนนัดแรก พร้อมกับชาวอาหรับผู้นำ ทิ้งให้ทาสและผู้ติดตามของพวกเขาสู้รบต่อไป" แต่แหล่งข้อมูลอื่นแถลงว่า พระองค์ประทับอยู่ในพระราชวังนานกว่านั้น[10] การระดมยิงสิ้นสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.40 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น พระราชวังและฮาเร็มที่อยู่ติดกันเกิดเพลิงไหม้ ปืนใหญ่ฝ่ายแซนซิบาร์เงียบเสียง และธงสุลต่านโค่นลง[1]

ระหว่างการระดมยิง เกิดการรบปะทะนาวิกขนาดเล็ก เมื่อเวลา 9.05 น. เรือกลาสโกว์ที่ล้าสมัยแล้วเปิดฉากยิงใส่เรือเซนต์จอร์จโดยใช้ปืนใหญ่ขนาด 9 ปอนด์ 7 กระบอก และปืนแก็ตลิงซึ่งเป็นของขวัญจากสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียถึงสุลต่าน[39] การยิงตอบโต้ทำให้เรือกลาสโกว์อับปาง แต่เนื่องด้วยน้ำในอ่าวตื้นทำให้เสากระโดงยังโผล่พ้นน้ำ[1] ลูกเรือเรือกลาสโกว์ยกธงอังกฤษเป็นสัญญาณยอมจำนน และพวกเขาทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากกะลาสีอังกฤษในเรือบด[1] เรือทรูชยังจมเรือยนต์ไอน้ำของแซนซิบาร์ลงอีกสองลำ เพราะลูกเรือแซนซิบาร์ยิงปืนเล็กยาวใส่เรือทรูช มีการสู้รบภาคพื้นดินบ้าง เมื่อคนของสุลต่านคาลิดยิงใส่ทหารอัสคารีของไรคีส เมื่อทหารอัสคารีเคลื่อนพลเข้าใกล้พระราชวัง แต่ได้ผลเล็กน้อย[1] การสู้รบยุติลงเมื่อหยุดระดมยิง อังกฤษเข้าควบคุมเมืองและพระราชวัง ตกบ่าย ฮามัด บิน มุฮามเม็ด ชาวอาหรับที่อังกฤษนิยม ได้รับการสถาปนาเป็นสุลต่านโดยมีพระราชอำนาจลดลงมาก[40] เรืออังกฤษและลูกเรือยิงกระสุนปืนใหญ่ไปประมาณ 500 นัด กระสุนปืนกล 4,100 นัด และกระสุนปืนเล็กยาว 1,000 นัดระหว่างการรบปะทะ[41]

ใกล้เคียง

สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามเวียดนาม สงครามกลางเมืองอเมริกา สงครามเกาหลี สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น สงครามเย็น สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง สงครามแปซิฟิก สงครามอ่าว

แหล่งที่มา

WikiPedia: สงครามอังกฤษ–แซนซิบาร์ http://books.google.com/?id=NrgBAAAAYAAJ&printsec=... http://books.google.com/?id=Z9sLAAAAYAAJ&printsec=... http://books.google.com/?id=vR9BAAAAIAAJ http://books.google.com/books?id=YUm142jq6F8C http://hansard.millbanksystems.com/commons/1804/au... http://hansard.millbanksystems.com/commons/1890/au... http://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=940... http://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=980... http://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=980... http://query.nytimes.com/gst/abstract.html?res=9B0...